ประวัติการเปลี่ยนแปลงกฎกอล์ฟ

ประวัติการเปลี่ยนแปลงกฎกอล์ฟ

ประวัติย่อกฎกอล์ฟฉบับแรกของโลก

          ใน ค.ศ. 1744 สโมสรกอล์ฟที่เป็นทางการ ก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในเมือง เอดินเบรอะ ประเทศสก็อตแลนด์ เรียกว่า เดอ คอมปานี ออฟ เจนเทิ้ลแมน กอล์ฟเฟอร์ส (The Company of Gentleman Golfers) กำหนดกฎข้อบังคับกีฬากอล์ฟขึ้น 13 ข้อเป็นครั้งแรก เพื่อช่วยขจัดการขัดแย้งในการเล่น ต่อมา 10 ปีหลังจากนั้น จึงได้ก่อตั้ง เดอะ รอยัล แอนด์ เอนเชี่ยน กอล์ฟ คลับ ออฟ ที่เมือง เซนต์ แอนดรูวส์ ประเทศสก็อตแลนด์ ให้เป็นผู้ดูแลกฎข้อบังคับกีฬากอล์ฟอย่างเป็นทางการ

สรุปสาระสำคัญของกฎกอล์ฟ 13 ข้อแรก

            สาระสำคัญ  13 First  Rules of Golf  กฎกอล์ฟ 13 ข้อแรกของโลก ระบุให้นักกอล์ฟทีออฟห่างจากหลุมใน 1 ช่วงไม้   ในสมัยเมื่อสามสี่ร้อยปีที่แล้วไม่มีแท่นตั้งที   เมื่อเล่นจบหลุมก็ทีออฟต่อไปเลย    หลังจากทีออฟห้ามเปลี่ยนลูกจนกระทั่งลูกลงหลุม  ห้ามหยิบก้อนหิน  กระดูก  เศษไม้กอล์ฟ  ยกเว้นบนกรีนจึงสามารถหยิบได้  ถ้าลูกลงในน้ำนักกอล์ฟอาจนำลูกไว้หลังอุปสรรค  ปรับ 1 สโตรคแล้วเล่นต่อไป    ถ้าลูกไปชนหรือสัมผัสอีกลูกหนึ่ง   ให้หยิบลูกแรกขึ้นแล้วเล่นลูกหลังไปก่อน   ระหว่างหลุมให้เล่นด้วยความซื่อสัตย์  ถ้าลูกหายต้องกลับไปดรอปลูกที่เดิมที่เล่นมา   ปรับ 1 สโตรค   ถ้าลูกเกิดสะดุดหยุดลงโดยบุคคล  ม้า  สุนัข  หรือสิ่งอื่นๆ  ต้องเล่นลูกในตำแหน่งที่หยุดอยู่    เมื่อนักกอล์ฟใช้ไม้ตีลงมา  ถ้าไม้เกิดหักถือว่าได้ตีลูก   ลูกที่ห่างไกลจากหลุมมากกว่าต้องเล่นก่อน  ร่อง  คู ต่าง ๆถือว่าเป็นอุปสรรค

ประวัติการเปลี่ยนแปลงโดยย่อ

ค.ศ. 1744      R & A เขียนกฎข้อบังคับเป็นลายลักษณ์อักษร 13 ข้อเป็นครั้งแรก

ค.ศ. 1850      เมื่อมีการใช้ลูกกอล์ฟที่ทำมาจากยางธรรมชาติ
                      ได้เพิ่มกฎใหม่ ให้ดรอปลูกใหม่ได้ หากผู้เล่นตีลูกแตก

ค.ศ. 1897      ก่อตั้งคณะกรรมการกฎข้อบังคับ  R & A เป็นครั้งแรก

ค.ศ. 1904      ลดเวลาค้นหาลูกจาก 10 นาที เป็น  5 นาที

ค.ศ. 1909      เริ่มกำหนดรูปแบบไม้กอล์ฟเป็นครั้งแรก

ค.ศ. 1922      เริ่มกำหนดน้ำหนัก   และกำหนดระยะทางของลูกกอล์ฟเป็นครั้งแรก

ค.ศ. 1929      ให้ใช้ก้านไม้ที่ทำด้วยเหล็กเป็นครั้งแรก

ค.ศ. 1939      กำหนดให้ใช้ไม้กอล์ฟ 14 อัน  เป็นต้นมา

ค.ศ. 1949      กำหนดให้มีการตัดสิทธิ์จากการแข่งขันในกรณีเล่นช้า

ค.ศ. 1952      การเล่นช้า กำหนดให้ปรับ 2 สโตรค และหากยังคงเล่นช้าในครั้งต่อไป

                      ให้ตัดสิทธิ์จากการแข่งขัน

ค.ศ. 1952      ให้เริ่มใช้กฎกอล์ฟเดียวกันทั่วโลก

ค.ศ. 1960      ยกเลิกการใช้เครื่องวัดระยะในการแข่งขัน

ค.ศ. 1984      R&A และ  USGA  รวมเป็นหนึ่งเดียว เพื่อกำหนด Rules and Decisions ทุก 4 ปี

                     โดย R & A  ครอบคลุมทั่วโลก ส่วน USGA ครอบคลุมเฉพาะ USA  และ Mexico

                     ยกเลิกการดรอปลูกข้ามไหล่ทางด้านหลังของผู้เล่น

                     และให้ดรอปลูกโดยวิธีเหยียดแขนเสมอไหล่

ค.ศ. 1990     กำหนดให้ลูกที่ถูกต้องตามกฎข้อบังคับมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.68  นิ้วเท่านั้น

ค.ศ. 2004     ได้มีการกำหนดขนาดของหัวไม้ไม่เกิน 470 ลูกบาศก์เซนติเมตร

ค.ศ. 2008     อนุญาตให้พิสูจน์ลูกกอล์ฟในอุปสรรคได้        

                     ไม่อนุญาตใช้หัวไม้ที่ผิดจากข้อกำหนด

ค.ศ. 2012     ปรับโทษทั่วไป แทนการตัดสิทธิ์การแข่งขัน ในกรณีผู้เล่นเริ่มเล่นสาย แต่อยู่ภายใน 5 นาที

                     อนุญาตให้ผู้เล่นเกลี่ยทรายในอุปสรรคเมื่อใดก็ได้ เพื่อจุดประสงค์ในการรักษาสนาม

                     ยกเลิกโทษปรับ ถ้าลูกของผู้เล่นเคลื่อนที่หลังการจรด เมื่อรู้แน่ใจว่าผู้เล่นไม่ได้เป็นต้นเหตุ

                     เพิ่มภาคผนวก ในเรื่องสิ่งประดิษฐ์ และอุปกรณ์ เช่นทีตั้งลูก ถุงมือ อุปกรณ์วัดระยะทาง

ค.ศ. 2016     ปรับ 2 สโตรค แทนการตัดสิทธิ์แข่งขัน กรณีที่ส่งสกอร์ของหลุมต่ำกว่าทำได้จริง

                     เนื่องจากไม่รวมโทษปรับเพราะไม่ทราบมาก่อน

                    ห้ามการตรึงไม้กอล์ฟ ทั้งโดย “ตรง” หรือด้วยการใช้“จุดตรึง”ระหว่างกำลังทำการสโตรค

                    ปรับโทษทั่วไป แทนโทษตัดสิทธิ์แข่งขัน กรณีใช้อุปกรณ์ที่ใช้ผิดปกติ และการละเมิดกฎนี้

                    ครั้งต่อไปมีโทษตัดสิทธิ์การแข่งขัน

                   ยกเลิกกฎลูกเคลื่อนที่หลังจรดไม้กอล์ฟ

ค.ศ. 2017   อนุญาตให้คณะกรรมการออกกฎสนาม ยกเว้น โทษที่ทำให้ลูกเคลื่อนที่บนกรีนโดยไม่เจตนา

กฎที่เปลี่ยนแปลงหลักปี 2019

มีการเปลี่ยนแปลงหลักๆ มีอยู่ 8 ลักษณะด้วยกัน ดังนี้

          - ลักษณะ 1.ลูกหยุดนิ่ง (Ball at Rest)  

          - ลักษณะ 2.ลูกเคลื่อนที่ (Ball in Motion)

          - ลักษณะ 3.การผ่อนปรน (Taking Relief)                       

          - ลักษณะ 4.พื้นที่ในสนาม (Areas of the Course)   

          - ลักษณะ 5.อุปกรณ์ (Equipment)  

          - ลักษณะ 6.การเล่นลูก (Playing a Ball)     

          - ลักษณะ 7.การเล่นรอบ (When to Play During a Round)         

          - ลักษณะ 8.พฤติกรรมผู้เล่น (Player Behavior)

ดูรายละเอียดที่    https://www.randa.org/en/rog/2019/pages/players-edition